Apple Watch Series 7 มีอะไรที่ต่างจาก Series 6บ้าง?

วางจำหน่ายเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สำหรับ Apple Watch Series 7 แม้ว่าจะไม่ค่อยมีอะไรเปลี่ยนไปมากนัก เมื่อเทียบกับ Series 6 แต่ความสะดวกสบายในการใช้งาน และ รูปแบบการดีไซน์นั้น ก็ได้รับการปรับปรุงให้ดูน่าสนใจมากขึ้น คุณสามารถตรวจสอบ ราคา คุณสมบัติ ฟังก์ชัน ดีไซน์ และ อื่นๆ ในบทความนี้ได้เลยว่า มีอะไรที่ต่างจาก Series 6บ้าง?

ราคา

Apple Store สำหรับ ราคาวางจำหน่าย Apple Watch Series 7 รวมภาษีแล้ว มีรายละเอียดดังนี้

 

41mm

45mm

รุ่น GPS

เริ่มต้นที่ 13,900 ฿

เริ่มต้นที่ 14,900 ฿

รุ่น GPS + Cellular

เริ่มต้นที่ 17,500 ฿

เริ่มต้นที่ 18,500 ฿

ตัวเรือนและน้ำหนัก

ตัวเรือนและน้ำหนัก

ซ้าย 41 มม. ,ขวา 45 มม.

Apple Watch Series 7 นั้นมีตัวเรือน 2 ขนาด คือ 41 มม. และ 45 มม. ในขณะที่ Series 6 มีขนาดที่ 40 มม. และ 44 มม. ความต่างของตัวเรือนระหว่างสองรุ่นนี้ จึงอยู่ที่ 1 มม. โดยคุณสามารถเลือกขนาดตัวเรือนแบบที่เคยใช้ได้ ด้านล่างนี้จะเป็นการเปรียบเทียบ น้ำหนักและตัวเรือนโดยรวม

 

ขนาด 41 มม.

ขนาด 45 มม.

ความยาวสาย

41 มม.

45 มม.

ด้านข้าง

35 มม.

38 มม.

ความหนา

10.7 มม.

10.7 มม.

น้ำหนัก

อะลูมิเนียม:32.0 g
สแตนเลสสตีล :42.3 g
ไทเทเนียม :37.0 g

อะลูมิเนียม:38.8 g
สแตนเลสสตีล :51.5 g
ไทเทเนียม:45.1 g

วัสดุตัวเรือนและสี

วัสดุตัวเรือนและสี

วัสดุอะลูมิเนียม 5 เฉดสี

วัสดุตัวเรือน

สี

รุ่น GPS + Cellular

รุ่น GPS

อะลูมิเนียม

มิดไนท์
สตาร์ไลท์
เขียว
น้ำเงิน
(PRODUCT)RED

สแตนเลสสตีล

เงิน
ทอง
กราไฟต์

-

ไทเทเนียม
(Apple Watch Edition)

ไทเทเนียม
ดำสเปซแบล็ค

-

สำหรับวัสดุตัวเรือนนั้น มีให้เลือกด้วยกัน 3 แบบ คือ อะลูมิเนียม สแตนเลสสตีล และไทเทเนียม เช่นเดียวกัน แต่สีนั้น มีความแตกต่างของสีระหว่าง Series 7 และ Series 6 ที่ค่อนข้างชัดเจน โดยเฉพาะอย่างยิ่งใน ตัวเรือนวัสดุ อะลูมิเนียม โดยคง สีน้ำเงิน และ (PRODUCT) RED ที่มีอยู่แล้วไว้ ตัด สีเงิน สีเทาสเปซเกรย์ และสีทอง ออกไป และ เพิ่มสีใหม่สามสี ได้แก่ มิดไนท์ สตาร์ไลท์ และ สีเขียว เข้ามาให้เลือกแทน

นอกจากนี้ยังมี การร่วมงานกับแบรนด์ชื่อดังระดับโลก ในการสร้างคอลเลคชั่น นั่นก็คือ Apple Watch Nike และ Apple Watch Hermès

ดีไซน์

การออกแบบ ของ Apple Watch Series 7 ดีไซน์มาในแบบ สุดขอบ ด้วยมุมที่โค้งมน รับการหักเหของแสงที่บริเวณขอบจอ ทำให้จอภาพกับตัวเรือนดูกลมกลืนเป็นหนึ่งเดียวกัน

เท่านั้นยังไม่พอ ที่ขอบด้านข้างก็แคบลงกว่าเดิม ถึง 40% เหลีอความกว้างเพียง 1.7 มม. ซึ่งขนาดหน้าจอที่ใหญ่ขึ้น ในขณะที่ตัวเรือนแทบจะไม่เปลี่ยนแปลง Series 7 นั้นมีพื้นที่หน้าจอมากกว่า Series 6 ถึงเกือบ 20% และมากกว่า Series 3 เกิน 50% อีกด้วย ถือว่า มีความแตกต่างกันพอสมควร และนี้ก็เป็นอีกหนึ่งจุดดึงดูดสำคัญ

หน้าปัด

ส่วนในคอลเลคชั่น Apple Watch Nike และ Apple Watch Hermès คุณสามารถเลือกหน้าปัด สีของสาย ที่เป็นดีไซน์เฉพาะจากแบรนด์ได้อีกด้วย

สำหรับความต่างระหว่าง รุ่น GPS และรุ่น GPS + Cellular ก็คือ รุ่น GPS + Cellular จะมีวงแหวนสีแดงบน Digital Crown แบบเดียวกันกับซีรีส์ก่อนหน้านี้ คุณจึงรู้ได้ทันทีว่าเรือนนั้นสามารถใช้งานรูปแบบไหนได้บ้าง

พื้นที่จัดเก็บข้อมูล

ความจุในการจัดเก็บข้อมูลนั้น อยูที่ 32GB ไม่เปลื่ยนแปลงจากรุ่นก่อนหน้านี้

จอภาพ

จอภาพ

Apple Watch Series 7 มาในจอภาพ Retina แบบติดตลอดที่ประหยัดพลังงาน ด้วยการรวมเซ็นเซอร์สัมผัสเข้ากับแผง OLED ทำให้จอภาพบางลง ส่วนความสว่างของจอนั้นเพิ่มขึ้นอย่างมาก แม้จะไม่ได้ยกข้อมือขึ้น ก็ยังแสดงความสว่างในอาคารหรือในที่ร่ม มากกว่า Series 6 ถึง 70% ความละเอียดของจอภาพอยู่ที่ 396 x 484 พิกเซล ในตัวเรือนขนาด 45 มม. และ 352 x 430 พิกเซล บนตัวเรือนขนาด 41 มม.

การพัฒนาในด้าน UI

การพัฒนาในด้าน UI

ซ้าย :หน้าปัดใหม่แบบ "contour" , ขวา :หน้าปัดใหม่แบบ "Modular Duo"

UI ( User interface) คือ สิ่งที่ได้รับการพัฒนาและปรับปรุง อย่างเห็นได้ในชัดใน Apple Watch Series 7 ด้วยหน้าจอที่มีขนาดใหญ่ขึ้น ปุ่มต่างๆ ทั่วทั้งระบบ ขนาดของตัวอักษร ก็ได้รับการปรับปรุง ให้สัมผัสได้ง่ายขึ้น อ่านได้สบายขึ้น

มีหน้าปัดใหม่ที่เรียกว่า "Contour" และ "Modular Duo" ให้ได้เลือกใช้งานเพิ่มขึ้นบน Apple Watch Series 7 ลักษณะเฉพาะของ "Modular Duo" สามารถแสดงข้อมูลพร้อมกันถึง 2ชุด ตัวอย่างเช่น หน้าจอสามารถแสดงสภาพอากาศพร้อมการแสดงผลการตรวจวัดอัตราการของหัวใจ หรืออื่นๆ ไปพร้อมกันได้บนหน้าจอ ส่วนหน้าจอปัดแบบ "Contour" นั้นจะนำตัวเลขบอกเวลาไปไว้ชิดขอบของจอภาพจะเน้นเวลาในชั่วโมงปัจจุบันให้โดดเด่น สัมผัสถึงความเรียบง่ายและสบายตาแบบมินิมอล

นอกจากนี้ คุณยังสามารถใช้งานแป้นพิมพ์ (รูปแบบ QWERTY) ที่รองรับ QuickPath (ป้อนข้อมูลจากการติดตาม) การทำงานของแป้นพิมพ์นี้จะแสดงตัวเลือก คำศัพท์หรือวลีในเชิงคาดการณ์ที่เหมาะสมกับบริบท ดังนั้นจึงไม่ต้องสงสัยเลยว่าความเร็วในการป้อนข้อมูลที่เพิ่มมากขึ้นตามมา

ประสิทธิภาพ

ใน Apple Watch Series 7 ชิปในการประมวลผลนั้นปลี่ยนจาก S6 รุ่นก่อนเป็น S7 น่าเสียดายที่ไม่มีข้อมูลในเชิงเปรียบเทียบประสิทธิภาพในทั้งสองรุ่น โดยสื่อบางสำนักคาดการณ์ถึงสาเหตุว่า อาจเป็นเพราะ Series 7 และ Series 6 มีประสิทธิภาพที่ใกล้เคียงกัน โดยข้อมูลที่ Apple ประกาศนั้น มีเพียงว่า Series 7 นั้น เร็วกว่า Apple Watch SE (ใช้ชิป S5) ถึง 20%

ในส่วนของการเชื่อมต่อแบบไร้สาย (การเชื่อมต่อ Wi-Fi และ Bluetooth) และ UWB (Ultra Wideband Wireless Systems) ประกอบด้วย W3 และ U1 แบบเดียวกันกับ Series 6 และอีกหนึ่งคุณสมบัติที่ทั้ง Series 7 และ 6 ทำได้คือ สามารถใช้ Apple Watch เป็นกุญแจรถ หรือรับการแจ้งเตือน จาก AirTag ผ่านชิป U1 และระบบปฏิบัติการ watchOS 8

แบตเตอรี่และ การชาร์จเร็ว

อายุการใช้งานแบตเตอรี่ อยู่ที่ 18 ชั่วโมง ทั้งใน ใช้ Apple Watch Series 7 และ 6

 

รุ่น GPS + Cellular

รุ่น GPS

กิจกรรมที่ทำได้
ใน 18 ชั่วโมง

ดูเวลา 90 ครั้ง
รับการแจ้งเตือน 90 ครั้ง
ใช้งานแอป 45 นาที
ออกกำลังกาย 60 นาที (พร้อมเล่นเพลงผ่านทางบูลทูธ)

เชื่อมต่อแบบ 4G LTE ได้นาน 4 ชั่วโมง
และ 14 ชั่วโมง ผ่าน Bluetooth
เมื่อจับคู่กับ iPhone

เชื่อมต่อผ่านสัญญาณ Bluetooth
เมื่อจับคู่กับ iPhone

โทรแบบต่อเนื่อง

สูงสุด 1.5 ชั่วโมง เชื่อมต่อแบบ 4G LTE

-

การเล่นเสียง

สูงสุด 11 ชั่วโมงในการเล่นจากพื้นที่เก็บข้อมูลของ Apple Watch

สตรีมเพลงผ่าน 4G LTE
สูงสุด 8 ชั่วโมง

 

ออกกำลังกาย

ในร่มสูงสุด 11 ชั่วโมง กลางแจ้งสูงสุด 7 ชั่วโมงโดยใช้ GPS

อยู่กลางแจ้งได้นานถึง 6 ชั่วโมง
โดยใช้ GPS และ 4G LTE

 

ทั้งนี้ หากคุณใช้สาย USB-C แบบแม่เหล็กที่ให้มาด้วยในการชาร์จไฟ จะพบว่าความเร็วในการชาร์จนั้นเร็วกว่า Series 6 สูงสุด 33% (ต้องใช้อะแดปเตอร์แปลงไฟขนาด 20W ขึ้นไป (แยกจำหน่าย)) สามารถชาร์จแบตเตอรี่ได้ตั้งแต่ 0 ถึง 80% ในเวลาประมาณ 45 นาที (สำหรับการชาร์จเต็มประมาณ 75 นาที) ซึ่งดูเหมือนว่าจะเร็วกว่ารุ่นทั่วไป ประมาณ 15 นาที นอกจากนี้ คุณสามารถบันทึกการนอนหลับได้ 8 ชั่วโมงด้วยการชาร์จเพียง 8 นาที

ประสิทธภาพ ทนการแตกร้าว ทนน้ำ ทนฝุ่น

ทนแตกร้าว ทนน้ำ ทนฝุ่น

Apple ประกาศว่า Apple Watch Series 7 ทนทานที่สุดเท่าที่เคยมีมา สำหรับด้านหน้าแบบคริสตัลที่ออกแบบใหม่ให้มีรูปทรงที่แข็งแกร่งและทนทานกว่าเดิม ด้วยความหนาที่เพิ่มขึ้นกว่า 50% เมื่อเทียบกับ Apple Watch Series 6 จึงทนต่อการแตกร้าวได้ดีขึ้น โดยไม่ทำให้ความชัดเจนของหน้าจอลดลง นอกจากนั้น Apple Watch Series 7 ยังผ่านการรับรองความสามารถในการทนฝุ่นที่ระดับ IP6X จึงทนทานยิ่งขึ้นในสภาพแวดล้อมต่างๆ ขณะที่ยังคงประสิทธิภาพยอดเยี่ยมในขณะว่ายน้ำด้วยความสามารถในการทนน้ำที่ระดับ WR50

การเชื่อมต่อระบบสื่อสาร (เซลลูลาร์ Wi-Fi, Bluetooth)

Apple Watch Series 7 เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้านี้ ใช้ระบบการสื่อสารแบบเดียวกัน แต่สามารถรองรับคลื่นความถี่ LTE และ UMTS Wi-Fi ในย่านความถี่ 2.4GHz และย่านความถี่ 5GHz ได้ นอกจากนี้ยังรองรับ Bluetooth เวอร์ชัน 5.0

การปลดล็อก

การปลดล็อก

Apple Watch Series 7 ยังคงต้องใช้รหัสผ่านเพื่อปลดล็อก น่าเสียดายที่ใน Series 7นี้ ก็ยังไม่สามารถใช้ Touch ID หรือ Face ID เพื่อปลดล็อกโดยตรงได้ ยังจำเป็นต้องใช้ Face ID บน iPhone อย่างเช่นที่ผ่านมา

หากคุณใช้งาน Apple Watch Series 7 ที่จับคู่ไว้ คุณสามารถปลดล็อก iPhone ด้วย Face ID ได้ ดังนั้นคุณต้องถอดหน้ากากและแว่นกันแดดออก แล้วป้อนรหัสผ่านทุกครั้งที่ต้องการใช้ iPhone ไม่สามารถปลดล็อก Face ID สำหรับ Apple Pay, การชำระเงินใน App Store และแอพที่ต้องมีการตรวจสอบสิทธิ์ในการเข้าสู่ระบบ จึงวางใจได้ในเรื่องความปลอดภัย

นวัฒกรรม ด้านสุขภาพ

นวัฒกรรม ด้านสุขภาพ

แน่นอนว่า Apple Watch ขึ้นชื่อในด้าน นาฬิกาดิจิตอลเพื่อสุขภาพ ด้วย งาน Apple Watch Series 7 คุณสามารถโทรออกแบบฉุกเฉินผ่านฟังก์ชัน SOS วัดระดับออกซิเจนในเลือก วัดอัตราการเต้นของหัวใจ วัดคลื่นไฟฟ้าหัวใจ วัดแคลอรีที่เผาผลาญไป บันทึกข้อมูลการนอนหลับ ยังไม่หมดเพียงเท่านั้น ฟังก์ชันที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพ อื่นๆ เช่น การตรวจจับการล้ม แอปทำสมาธิใหม่

หากใช้งานบน WatchOS 8 มีวิธีการออกกำลังกาย แบบไทเก็กและพิลาทิส ใหม่เพิ่มเข้ามา เพื่อช่วยในเรื่องสุขภาพร่างกายและจิตใจของคุณ นอกจากนี้ยังมีแอปใหม่อย่าง แอปทำสมาธิ ที่จะช่วยปรับสมดุลด้านจิตใจของคุณ และยังสามารถบันทึกอัตราการหายใจ ระหว่างการนอนหลับได้อีกด้วย

นอกจากนี้ watchOS 8 ยังมีฟังก์ชันการปั่นจักรยานใหม่สำหรับนักปั่นจักรยานอีกด้วย กระตุ้นให้ผู้ใช้เลือกและเริ่มออกกำลังกาย "(กลางแจ้ง)" โดยการปั่นจักรยาน โดยฟังก์ชันยังสามารถระบุอุปกรณ์ที่คุณกำลังใช้งานได้ด้วยเช่น เช่น จักรยานไฟฟ้า หรือการถีบด้วยตัวเอง พร้อมวัดแคลอรีที่เผาผลาญได้แม่นยำยิ่งขึ้น นอกจากนี้ คุณสมบัติการตรวจจับการล้มยังได้รับการปรับปรุงให้รับรู้การเคลื่อนไหวและผลกระทบของการล้มแต่ละครั้ง เมื่อขี่จักรยานหรือระหว่างการออกกำลังกายอื่นๆ

มีการเพิ่มฟังก์ชัน "voice feedback" เพื่อสร้างแรงจูงใจ สำหรับผู้ใช้ที่มีความกังวลเกี่ยวกับความคืบหน้า ระบบจะแจ้งเตือนสถานะของวงแหวนกิจกรรม แต่ละวงของการออกกำลังกาย และระดับความสำเร็จของเหตุการณ์สำคัญโดยอัตโนมัติ ผ่านลำโพงของตัวเครื่องหลักและหูฟังและหูฟังเช่น AirPods เพื่อสร้างแรงบันดาลใจและเป็นกำลังใจให้คุณถึงเป้าหมายที่ตั้งไว้

การทำงานร่วมกับ watchOS 8

watchOS 8

เมื่อใช้งาน Watch Series 7 บน watchOS 8 รุ่นล่าสุด คุณจะพบกับความสะดวก ที่มากกว่า บนสถานการณ์ที่หลากหลาย ผ่านแอป กระเป๋าสตางค์ ข้อความ บ้าน รูปภาพ และ รายชื่อผู้ติดต่อ

โดยแอป "Find My iPhone" ก่อนหน้านี้ ได้รับการเปลี่ยนให้ เป็นแอป "Find My Device" และ "Find My Devices" บน watchOS 8 ในฟังก์ชัน "ค้นหาสิ่งของของคุณ" สามารถค้นหารายการที่มีแท็กป้องกันการสูญหายได้ บนอุปกรณ์หรือสิ่งของที่ติด AirTag

บนหน้าปัด " World Time" ช่วยให้คุณตรวจสอบเวลาทั่วโลก ได้ถึง 24 โซนเวลา พร้อมกันในหน้าปัดเดียว ขณะที่หน้าปัด "ภาพถ่ายบุคคล" ใช้ความสามารถในด้านมิติความลึกของโหมดภาพถ่ายบุคคลบน iPhone ในการสร้าง หน้าปัดสวยงามและบ่งบอกความเป็นตัวตนของคุณได้อย่างชัดเจน

นอกจาก ยังมีความสามารถในโหมดรวมศูนย์ AssistiveTouch เพื่อช่วยให้คุณใช้งาน Apple Watch โดยไม่ต้องสัมผัสหน้าจอ เป็นตัวช่วยในการเข้าถึง

บทความที่เกี่ยวข้อง

Latest News