สรุปกิจกรรมของ Apple ภายในงานวันนี้ มีอะไรเปิดตัวบ้าง

Apple จัดกิจกรรมทางออนไลน์ ในคอนเซปต์ "Peek performance" เมื่อวันที่ 9 มีนาคม ช่วง 01:00 ที่ผ่านมา ตามเวลาประเทศไทย สาวก Apple หลายคน ก็ตื่นเต้นไปกับคำใบ้อย่าง "Peek" และ "Peak" โดยภายในงานมีการเปิดตัว iPhone SE (รุ่นที่ 3) และ Mac Studio รวมไปถึงชิป M1 Ultra ตัวใหม่ล่าสุด และอื่นๆ ซึ่งเราได้รวบรวมและสรุปมาให้คุณแล้ว

iPhone SE (รุ่นที่ 3) ที่รองรับ 5G

iPhone SE

เริ่มต้นกันที่ iPhone SE (รุ่นที่ 3) รองรับการใช้งาน 5G ติดตั้งชิป A15 Bionic ตัวล่าสุด แบบเดียวกันกับ iPhone 13 และอายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่ใช้ได้นานยิ่งขึ้น

ในเรื่องของดีไซน์ ไม่ได้แตกต่างไปจากรุ่นเก่ามากนัก จอภาพยังคงเป็น จอ Retina HD ขนาด 4.7 นิ้ว ใช้งาน Touch ID บนปุ่มโฮม ในการยืนยันตัวตนเช่นเดิม วัสดุตัวเครื่องเป็นอลูมิเนียม เพื่อความทนทาน และใช้กระจกแบบเดียวกันกับ iPhone 13 ทั้งด้าน และ ด้านหลัง ซึ่ง Apple ระบุว่า เป็นกระจกที่แข็งแกร่งที่สุดในสมาร์ทโฟน

ระบบกล้อง เป็นกล้องเลนส์เดี่ยว ความละเอียด 12MP (เลนส์มุมกว้าง: f/1.8) มาพร้อมคุณสมบัติ "สไตล์ภาพถ่าย" , HDR อัจฉริยะ 4 รองรับการใช้งานโหมด ภาพถ่ายบุคคล (Portrait) แบบเดียวกันที่มีให้ใช้บน iPhone 13 นอกจากนี้ยังรองรับ Deep Fusion ส่วนสี มีให้เลือกทั้งหมด 3สี ได้แก่ มิดไนท์ (สีดำ) สตาร์ไลท์ (สีขาว) และ (PRODUCT) RED

ราคาวางจำหน่าย ความจุ 64GB (15,900 บาท) 128GB (17,900 บาท) และ 256GB: (21,900 บาท ) พร้อมวางจำหน่ายในประเทศไทย 25 มี.ค. โดยสามารถสั่งซื้อล่วงหน้าได้ในวันที่ 18 มี.ค. เริ่มตั้งแต่เวลา 9.00 น.

iPhone 13 สีใหม่

iPhone 13

สองสีใหม่ ถูกเพิ่มเข้ามาในซีรีส์ iPhone 13 คือ สี เขียวอัลไพน์ บนรุ่น Pro และ Pro Max และ สีเขียว ใน iPhone 13 และ 13 mini เริ่มสั่งจองล่วงหน้า ได้ตั้งแต่เวลา 09.00 น. ของวันที่ 18 มีนาคม พร้อมวางจำหน่ายในวันที่ 25 มีนาคม

iPad Air (รุ่นที่ 5 ) ในชิป M1

iPhone 13

นับตั้งแต่มีการเปิดตัวรุ่นที่ 4 ในปี 2020 ก็นับเป็นครั้งแรกในรอบหนึ่งปีครึ่ง ของ iPad Air ที่มีการอัพเกรด โดย iPad Air (รุ่นที่ 5) รุ่นล่าสุดนี้ เดิมทีคาดการณ์ว่าจะใช้ ชิป A14 Bionic แต่กลับเปิดตัวใน ชิป M1 เช่นเดียวกันกับ MacBook Air เมื่อปี 2020 และ iPad Pro ที่เปิดตัวในปี 2021 จากข้อมูลของ Apple ระบุว่า ประสิทธิภาพการทำงานดีขึ้น 60% เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้านี้ และเร็วกว่า แล็ปท็อป Windows ยอดนิยม ประมาณสองเท่า

กล้องหน้าได้รับการปรับปรุงเป็น กล้องอัลตร้าไวด์ ที่พัฒนาขึ้นใหม่ เพื่อรองรับคุณสมบัติ "จัดให้อยู่ตรงกลาง" ที่ช่วยให้วิดีโอคอลเป็นธรรมชาติมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ยังรองรับการใช้งานบน เครือข่าย 5G และใช้พอร์ต USB-C ที่มีความเร็วในการถ่ายโอนสูงถึงสองเท่า มีให้เลือก 5 สี ได้แก่ สีเทาสเปซเกรย์ สตาร์ไลท์ ชมพู ม่วง และสีใหม่ สีน้ำเงิน

ราคาของความจุ 64GB เริ่มต้นที่ 20,900 บาท ในรุ่น Wi-Fi และ 25,900 บาท ในรุ่น Wi-Fi + Cellular ขนาดความจุ 256GB รุ่น Wi-Fi ราคา 25,900 บาท สำหรับ รุ่น Wi-Fi + Cellular อยู่ที่ 30,900 บาท โปรดตรวจสอบวันวางจำหน่ายอีกครั้ง

ชิปตัวใหม่ล่าสุด "M1 Ultra"

iPhone 13

Apple ประกาศให้ Mac Studio เป็น เดสก์ท็อป Mac รุ่นใหม่แบบ ใหม่หมด โดยชิปที่ใช้ใน Mac Studio นี้คือ M1 Ultra ความเหนือชั้นของชิป M1 Ultra นั้นจริงๆ แล้วเกิดขึ้นจากชิป M1 Max โดยการทำงานของ M1 Ultra ใช้ประโยชน์จากคอร์ประสิทธิภาพสูงและคอร์ประหยัดพลังงานสูง ซึ่งมีให้สูงสุดรวม 20 คอร์ใน CPU ประกอบด้วยทรานซิสเตอร์จำนวน 114 พันล้านตัว ซึ่งเป็นจำนวนที่มากที่สุดในประวัติศาสตร์ของชิปบน PC นั่นก็หมายถึง M1 Ultra เป็น ชิปที่ทรงพลังที่สุดเท่าที่เคยมีมาในคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลนั่นเอง

เดสก์ท็อป "Mac Studio"

iPhone 13

Apple เปิดตัว คอมพิวเตอร์เดสก์ท็อปขนาดกะทัดรัด แบบใหม่ล่าสุด ในชื่อ Mac Studio ที่มาในชิป M1 Max และ M1 Ultra ตัวใหม่ล่าสุด

ลักษณะของตัวเครื่อง อาจคล้ายกันกับ "Mac mini " ที่ดูสูงกว่า มาพร้อมความสามารถในการเชื่อมต่อและการต่อขยาย แบบอลังการ ผ่านพอร์ตประสิทธิภาพสูงที่มีให้ถึง 12 พอร์ต ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ด้านหน้า เป็น USB-C หรือ Thunderbolt 4 จำนวน 2 พอร์ต SDXC จำนวน 1 ช่อง ด้านหลัง Thunderbolt 4 จำนวน 4 พอร์ต ,10Gb Ethernet1 พอร์ต ,USB-A2 พอร์ต , HDMI 1 พอร์ต , ช่องต่อหูฟัง3.5 มม.1 ช่อง ยังมีการออกแบบ ระบบระบายความร้อนที่ทันสมัย เพื่อประสิทธิภาพในการทำงานของคอมพิวเตอร์ และหากใช้งานร่วมกับจอแสดงผลใหม่ อย่าง "Studio Display" ที่การเปิดตัวร่วมกันภายในงาน บอกได้เลยว่า นี้คืออุปกรณ์ในฝันสำหรับการทำงานของหลายคนทีเดียว

ในรุ่นที่ติดตั้งชิป M1 Ultra จะมีประสิทธิภาพ CPU ที่เร็วกว่า Mac Pro ถึง 60% (ที่มี 28-core Intel Xeon) ในทางกลับกัน รุ่นที่ติดตั้งชิป M1 Max จะเร็วกว่า Mac Pro ถึง 50% (ที่มี Intel Xeon 16 คอร์) สิ่งที่น่าสนใจอย่างหนึ่งก็คือ แม้จะมีประสิทธิภาพและกำลังสูง แต่ก็ใช้ไฟฟ้าเพียง1,000 kWh ต่อปี เมื่อเทียบกับ PC ระดับไฮเอนด์อื่นๆ

ขนาดพื้นที่จัดเก็บข้อมูลคือ 1TB ในรุ่น M1 Ultra (สามารถเปลี่ยนเป็น 2TB, 4TB, 8TB ) และ 512GB สำหรับรุ่น M1 Max (สามารถเปลี่ยนเป็น 1TB, 2TB, 4TB, 8TB )

ราคาเริ่มต้นที่ 139,900 บาท ในรุ่น M1 Ultra และ 69,900 บาท ใน รุ่น M1 Max โปรดตรวจสอบวันวางจำหน่ายอีกครั้ง

Studio Display

Studio Display

นอกเหนือจาก Mac Studio แล้ว Studio Display ซึ่งเป็นจอภาพ Retina ขนาด 27 นิ้ว ความคมชัดระบบ5K ได้ ก็ได้รับการร่วมเปิดตัวภายในงานด้วย มาพร้อมกับกล้องอัตร้าไวด์ ความละเอียด 12MP ที่รองรับคุณสมบัติ "จัดให้อยู่ตรงกลาง" ระบบ 6 ลำโพงคุณภาพเสียงคมชัด พร้อมวูฟเฟอร์แบบตัดแรงสั่น รองรับระบบเสียงตามตำแหน่ง Studio Display สามารถใช้กับ Mac รุ่นอื่นๆได้ แต่ Apple เผยว่า "เข้ากันได้อย่างยอดเยี่ยม" กับ Mac Studio โดย Studio Display ใหม่นี้ สามารถสั่งซื้อได้แล้ว ในราคา 54,900 บาท

บทความที่เกี่ยวข้อง

Latest News