ฟีจเจอร์ใหม่และคุณสมบัติต่างๆใน iPad Air (รุ่นที่ 4) เมื่อเทียบกับ รุ่นที่ 3

Apple เพิ่งเปิดตัว iPad Air รุ่นใหม่ล่าสุด (รุ่นที่ 4) เป็นครั้งแรกในเวลาประมาณ 1 ปีครึ่ง ภายใต้คอนเซปต์ "ทั้งทรงพลัง ทั้งสดใส ทั้งน่ามหัศจรรย์" ที่มาพร้อมกับชิพรุ่นล่าสุด คุณจะเพลิดเพลินไปกับอุปกรณ์ทสีสันสดใส ที่มีให้เลือกถึง 5 สี มาดูกันว่า iPad Air (รุ่นที่ 4) นี้ มีอะไรใหม่ที่น่าสนใจบ้าง

iPad Air

วันที่วางจำหน่าย

วันที่วางจำหน่ายของ iPad Air (รุ่นที่ 4) ในไทยนั้น ยังไม่มีกำหนดการอย่างเป็นทางการ จากทาง Apple ต้องติดตามความคืบหน้ากันต่อไป อย่างไรก็ตาม iPad Air (รุ่นที่ 3) เปิดตัวเมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2019

ราคา

ราคาจำหน่ายที่ Apple Store มีดังนี้ จำนวนเงินรวมภาษีแล้ว

 

Wi-Fi

Wi-Fi + Cellular

64GB

19,900 ฿

24,400 ฿

256GB

24,900 ฿

29,400 ฿

ข้อมูลตัวเครื่อง

 

4th generation

3rd generation

สี

Silver (เงิน)
Space Gray (เทาสเปซเกรย์)
Rose Gold (โรสโกลด์)
Green (เขียว)
Sky Blue (สกายบูล)

Silver (เงิน)
Space Gray (เทาสเปซเกรย์)
Gold (ทอง)

ควาจุ

64GB
256GB

ขนาดหน้าจอ

10.9 นิ้ว

10.5 นิ้ว

ขนาดและน้ำหนัก

ความสูง: 247.6 mm
ความกว้าง: 178.5 mm
ความหนา: 6.1 mm
น้ำหนัก: (Wi-Fi): 458 g
น้ำหนัก: (Cellular): 460 g

ความสูง: 250.6mm
ความกว้าง: 174.1mm
ความหนา: 6.1mm
น้ำหนัก: (Wi-Fi): 456 g
น้ำหนัก: (Cellular): 464 g

จอภาพ

Liquid Retina
2,360 x 1,640px

Retina
2,224 x 1,668px

ชิพ

A14 Bionic

A12 Bionic

แบตเตอรี่

ท่องเว็บผ่าน Wi Fi หรือดูวิดีโอได้นานสูงสุด 10 ชั่วโมง
ท่องเว็บโดยใช้เครือข่ายข้อมูลเซลลูลาร์ได้นานสูงสุด 9 ชั่วโมง

Apple Pencil

รองรับ รุ่นที่ 2

รองรับ รุ่นที่ 1

Keyboard

Magic Keyboard
Smart Keyboard Folio

Smart Keyboard

กล้องหลัง

กล้องไวด์ ความละเอียด 12MP
รูรับแสงขนาด ƒ/1.8
Live Photos พร้อมระบบป้องกันภาพสั่นไหว

8 ล้านพิกเซล
รูรับแสงขนาด ƒ/2.4
Live Photos

กล้องหน้า

7 ล้านพิกเซล

การถ่ายวิดีโอ

บันทึกวิดีโอระดับ 4K

บันทึกวิดีโอระดับ HD 1080p

ระบบเสียง

ระบบเสียง 2 ลำโพง
(ในโหมดแนวนอน)

ระบบเสียง 2 ลำโพง

เปลี่ยนรูปแบบการดีไซน์

デザイン刷新

iPad Air รุ่นนี้มีการออกแบบหน้าจอใหม่ทั้งหมด ด้วยกรอบสีดำขอบเรียบและเฉดสี ด้านการออกแบบจึงคล้ายกับ iPad Pro ซีรีส์ที่วางจำหน่ายในเดือนมีนาคมปีนี้ มีให้เลือก 5 สี ได้แก่ เงิน, เทาสเปซเกรย์, โรสโกลด์, เขียว และ สกายบูล

จอแสดงผลมีขนาด 10.9 นิ้ว ใหญ่กว่ารุ่นที่ 3 ที่มีขนาด10.5 นิ้ว เล็กน้อย นอกจากนี้จอภาพ Retina แบบเดิม ยังถูกเปลี่ยนเป็นจอภาพ Liquid Retina ความละเอียดสูง มุมของจอแสดงผลด้วยมุมโค้งมนแทนที่จะเป็นมุมฉาก

ติดตั้ง Touch ID โดยไม่มีปุ่มโฮม

Touch ID

การหายไปของปุ่มโฮม น่าจะเป็นการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญที่สุด เนื่องจาก ความคุ้นเคยของผู้ใช้ที่มีมาอย่างยาวนาน นับตั้งแต่ iPad Air เครื่องแรกที่วางจำหน่ายในปี 2013 อย่างไรก็ตาม ระบบยืนยันตน ยังไม่ได้เปลี่ยนจาก Touch ID เป็น Face ID แต่นับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของ Apple ที่ ปุ่มเปิด / ปิดที่ด้านบน ของแท็บเล็ต มีเซ็นเซอร์ Touch ID ในตัว การปลดล็อคทำได้โดยการตรวจสอบลายนิ้วมือเหมือนเดิม

ใช้ชิพ A 14 ที่ล้ำหน้าที่สุด

A14

iPad Air (รุ่นที่ 4) มาพร้อมกับ A14 Bionic ล่าสุด A14 เป็นชิพตัวแรกของ Apple ที่ใช้เทคโนโลยีกระบวนการผลิตแบบ 5 นาโนเมตร ทำให้ทรานซิสเตอร์จำนวนมากถึง 11.8 พันล้านตัว รวมอยู่บนวัสดุพิมพ์ขนาดเล็กมาก

เมื่อเทียบกับ A12 ที่มีกระบวนการ 7 นาโนเมตรและ 4-core CPU ที่ติดตั้งใน iPad Air (รุ่นที่ 3) ประสิทธิภาพของ iPad Air รุ่นใหม่ ที่ใช้ CPU แบบ 6‑core ใหม่ ที่เป็นคอร์ประหยัดพลังงานสูง จำนวน 4 คอร์ และคอร์ประสิทธิภาพสูงจำนวน 2 คอร์ นอกจากนี้ยังประหยัดพลังงาน ดังนั้น คุณสามารถคาดหวังได้ว่าจะใช้งานได้นานยิ่งขึ้น ในขณะที่ ชิพที่ติดตั้งใน ซีรีส์ iPhone 11 คือ A13 Bionic

กล้องที่มีความละเอียดดีขึ้น

カメラ

กล้องหลังของ iPad Air รุ่นที่ 4 ได้รับการอัพเกรด เป็นกล้องแบบไวด์ (เลนส์มุมกว้าง) ที่ความละเอียด12MP ต่างจากกล้องเดิมขนาด 8 ล้านพิกเซล ของ iPad Air รุ่นที่ 3 และ คุณยังสามารถถ่ายวิดีโอที่ระดับ 4K ได้อีกด้วย

ใช้งานได้กับ Magic Keyboard

Magic Keyboard

Magic Keyboard ซึ่งก่อนหน้านี้ มีเฉพาะใน iPad Pro เท่านั้น ที่สามารถใช้งานได้ ตอนนี้บน iPad Air ใหม่ รองรับการใช้งาน ได้เช่นกัน Magic Keyboard มีดีไซน์แบบยกลอยที่ปรับเอนได้ โดยจะยึดตัวเครื่องไว้ด้วยแม่เหล็ก มีแทร็คแพดในตัว ปุ่มแบบแบ็คไลท์ขนาดมาตรฐาน และกลไกแบบกรรไกรที่มีการขยับขึ้นลงของปุ่มที่ระยะ 1 มม. เพื่อการพิมพ์ที่เงียบและตอบสนองได้เป็นอย่างดี Magic Keyboard สำหรับ iPad Air รุ่นที่ 4 ราคานั้นเริ่มต้นที่ 9,900 ฿ และยังสามารถใช้งานกับ Smart Keyboard Folio ได้อีกด้วย ส่วนราคาของ Smart Keyboard Folio นั้น เริ่มต้นที่ 5,990 ฿

รองรับการใช้งานบน Apple Pencil รุ่นที่ 2

第2世代Apple Pencil

สำหรับ Apple Pencil รุ่นที่ 2 นั้น ก่อนหน้านี้ใช้ได้กับ iPad Pro บางรุ่นเท่านั้น ขณะนี้สามารถใช้งานบน iPad Air (รุ่นที่4) ได้อีกหนึ่งรุ่น ในแง่ของการใช้งานแทบจะไม่มีความแตกต่างกันระหว่างรุ่นของ Apple Pencil แต่รุ่นที่สอง นั้นจะมีคุณสมบัติพิเศษคือ จะยึดติดเข้ากับด้านข้างด้วยแม่เหล็ก ทั้งยังจับคู่และชาร์จโดยอัตโนมัติ อีกหนึ่งข้อดีคือ ยังมีข้อดีคือ สามารถพกพา Apple Pencil ไปด้วยได้แม้ในขณะที่สวมใส่

เปลี่ยนมาใช้ ช่องต่อ แบบ USB‑C

USB-C

iPad Air ใหม่ นั้นไม่ใช้ช่องต่อแบบ Lightning ถูกปรับเปลี่ยนมาใช้รูปแบบ USB-C ซึ่งเป็นแบบเดียวกันกับ iPad Pro และ iPhone 11 Pro , 11 Pro Max

สามารถใช้การชาร์จแบบความเร็วสูงได้

iPad Air (รุ่นที่ 4) มาพร้อมกับอะแดปเตอร์แปลงไฟ USB-C ขนาด 20วัตต์

บทความที่เกี่ยวข้อง

Latest News