สิ่งสำคัญที่ต้องพูดถึง สำหรับงานเปิดตัว Apple Watch และ Macbook

ในงานอีเว้นท์เปิดตัวสินค้าใหม่ของ Apple ที่ผ่านมา คือการเปิดตัวนาฬิกาข้อมืออัจฉริยะ หรือ Apple Watch อย่างเป็นทางการ ซึ่งจะเริ่มให้มีการ Pre Oder สั่งจองกันในวันแรก 10 เมษายนนี้ และวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการ ในวันที่ 24 เมษายน สำหรับ 9 ประเทศแรก อย่าง ออสเตรีย, แคนนาดา, จีน, ฝรั่งเศส, เยอรมันนี, ฮ่องกง, ญี่ปุ่น, อังกฤษ และอเมริกา ในราคาเริ่มต้นที่ 349 เหรียญสหรัฐ (ประมาณ 11,168 บาท) สำหรับไฮไลท์ในงานเปิดตัวดังกล่าว ที่เป็นจุดเด่นสำคัญ ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง เรานำมาฝากคุณแล้ว

1.ราคาเริ่มต้นในการวางจำหน่าย

อย่างที่ได้เกริ่นไปแต่แรกแล้ว Apple Watch จะมีทั้งหมด 3 คอลเลกชั่น คือ Apple Watch Sport , Apple Watch และ Apple Watch Edition รุ่น Sport จะเป็นรุ่นที่มีราคาถูกที่สุด ราคาเริ่มต้นที่ 349 เหรียญดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 11,168 บาท) สำหรับขนาด 38 mm และราคา 399 เหรียญดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 12,768 บาท) สำหรับขนาด 42 mm ตัวกล่องบรรจุทำจากอลูมิเนียม ซึ่งทนต่อการกัดกร่อน

ส่วนรุ่น Apple Watch นั้นผลิตจากแสตนเลส ราคาเริ่มต้นที่ 549 (ประมาณ 17,568 บาท) และ 599 เหรียญดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 19,168 บาท) สำหรับขนาด 38 และขนาด 42 mm ตามลำดับ และราคาอาจสูงถึง 1,099 เหรียญดอลลาร์สหรัฐ(ประมาณ 35,168 บาท) ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับประเภทของสายนาฬิกา

และสำหรับรุ่น Apple Watch Edition นั้น เป็นรุ่นที่ทำด้วยทอง 18 K ราคาเริ่มต้นที่ 10,000 เหรียญ (ประมาณ 320,000บาท)

2.มีแอพพลิเคชั่นมากมายรองรับ

บริษัทผู้พัฒนาแอพพลิเคชั่นได้มีการให้ใช้เครื่องมือ WatchKit ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว และวันนี้ Apple ได้ออกมาเน้นแอพพลิเคชั่นที่เกี่ยวข้องกับการใช้นาฬิกาที่จะทำให้การใช้งานสะดวกมากขึ้น อาทิ การเรียกใช้บริการแท็กซี่ Uber การเช็คอินโดยใช้ Passbook การเปิดประตูโรงรถโดยใช้ Alarm.com

ในครั้งนี้ Apple Watch เปิดตัวด้วยการเน้นไปที่เรื่องของข้อมูลเกี่ยวกับสุขภาพและการออกกำลังกาย แต่หลักใหญ่ ๆ จะเน้นไปที่การเปรียบเทียบข้อมูลย้อนหลัง รุ่นที่มีการนำเสนอในวันนี้ จะสามารถเฝ้าดูระดับกิจกรรมต่าง ๆ ของผู้สวมนาฬิกาและส่งสรุปข้อมูลเมื่อถึงช่วงปลายสัปดาห์

นอกจากนี้ยังสามารถส่งผ่านไปยังแอพพลิเคชั่นอื่น ๆ ได้อีกด้วย อาทิ Shazam และ Instagram, ถึงแม้ว่าหน้าจอจะมีขนาดเล็กมากก็ตาม

3. แบตเตอรี่จะสามารถใช้งานได้นาน 18 ชั่วโมง

นาฬิกาอัจฉริยะนี้ถึงแม้จะยังไม่ดีเท่าที่ควร แต่มันก็ยังสามารถทำงานต่อไปได้ เพียงแค่สวมใส่อยู่บนข้อมือเท่านั้น Apple สัญญาว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรนักสำหรับ Apple Watch เนื่องจากแบตเตอรี่สามารถอยู่ในได้ถึง 18 ชั่วโมงอยู่แล้ว ซึ่งมีระยะเวลานานกว่าแบตเตอรี่ราคาถูกในตลาดแน่นอน

4. ResearchKit อีกหนึ่งสิ่งที่น่าทึ่ง

ระบบของ Apple ที่เกี่ยวกับสุขภาพและการออกกำลังกาย นี้หมายรวมถึง ResearchKit กรอบการทำงานที่จะสร้างสรรค์ การวิจัยทางการแพทย์ที่ทันสมัย ระบบของข้อมูลชุดนี้ จะรวบรวมแอพพลิเคชั่นหลาย ๆ อันที่โดยมีเป้าหมายไปที่โรคที่แตกต่างกัน เช่น โรคพาร์คินสันและมะเร็งหน้าอก

ซึ่งจะทำให้ iPhone กลายเป็นเครื่องมือในการวินิจฉัยโรคต่าง ๆ ผู้ใช้สามารถกรอกข้อมูลในแบบทดสอบ และแบบสอบถาม เพื่อให้นักวิจัยสามารถวิเคราะห์ การเยียวยาทางการแพทย์ได้ถูกต้อง และหากผู้ใช้อุปกรณ์นี้อนุญาตให้ข้อมูลต่าง ๆ นำมาใช้ได้ ResearchKit สามารถประมวลผลจากข้อมูลต่างๆ ร่วมกับบริษัทผู้ผลิตแอพพลิเคชั่นโดยการใช้ข้อมูล น้ำหนัก ความดันโลหิต และระดับน้ำตาลของผู้สวมใส่ สิ่งต่างๆ เหล่านี้เป็นไปได้ด้วยการใช้ HealthKit แต่ผู้ร่วมทีมอย่าง มหาวิทยาลัย Oxford และโรงพยาบาล Mount Sinai จะเป็นผู้ที่เข้าถึงข้อมูลต่าง ๆ เหล่านี้เอง

Apple เน้นย้ำว่าจะไม่เป็นผู้เข้าถึงข้อมูลต่าง ๆ เหล่านี้หากผู้ใช้ไม่ได้เป็นผู้ที่จะแชร์ข้อมูลต่าง ๆ เหล่านี้ ในขณะนี้มีแอพพลิเคชั่นแบบนี้ 5 แอพพลิเคชั่นแล้วที่พร้อมใช้งานแต่สำหรับ ResearchKit จะเริ่มให้ใช้งานได้ในเดือนหน้าในรูปแบบโอเพ่นซอร์ท

5. MacBook สีทอง ดู ทันสมัยแบบ hyper - minimalist

หลังจากได้มีการปรับเปลี่ยนไปบ้างเล็กน้อยแล้ว MacBook Air ก็ถึงคิวที่จะมีการปรับเปลี่ยนครั้งใหญ่ มาครั้งนี้ มีการปรับโฉมใหม่คือ น้ำหนักเพียง 2 ปอนด์ หน้าจอเรตินาขนาด 12 นิ้ว ที่เรียกว่า MacBook ลือว่าจะมีขนาดเท่ากับ laptop ตัวบอดี้มีขนาดกว้างใกล้เคียงกับคีย์บอร์ด ซึ่งมีการดีไซน์ให้ปุ่มกดตื้นมากขึ้น มี trackpad และ ระบบตอบสนองการสั่นและการสนับสนุนต่อท่าทาง

โดยทั่ว ๆ ไปแล้ว ทุก ๆ พอร์ตการเชื่อมต่อสามารถเปลี่ยนแปลงได้ยกเว้น USB-C และแจ๊กหูฟังขนาดมาตรฐาน 3.5 ม.ม. พัดลมก็ไม่มีอีกต่อไป และ Apple ประกันว่าแบตเตอรี่สามารถอยู่ได้ 9 ชั่วโมง ในการท่องอินเตอร์เน็ต จากการชาร์ตหนึ่งครั้ง อีกประการคือ มีสีเทาบรอนซ์ (space grey) และ สีทอง เช่นเดียวกับผลิตภัณฑ์ก่อนหน้านี้ของ Apple อาทิ Air และ MacBook Pro ซึ่งทั้งสองรุ่นนี้ก็จะมีการปรับเปลี่ยนเช่นกัน MacBook นี้ จะเริ่มวางจำหน่ายวันที่ 10 เมษายนนี้ ราคาเริ่มต้นที่ 1,299 เหรียญดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 41,568 บาท)

6.ถือเป็นอีกหนึ่งสุดยอดนวัตกรรม

ผลิตภัณฑ์ใหม่ MacBook ขนาด 12 นิ้ว รุ่นนี้จะมีช่องเสียบพอร์ตหลายช่องคล้ายรุ่น MacBook Air ขนาด 13 นิ้ว และเพิ่มช่องเสียบ USB แบบ C ซึ่งจะทำให้สามารถใช้ได้กับหัวต่อแบบหลากหลาย โดยสามารถเชื่อมต่อกับโทรศัพท์และแท็บเล็ตตั้งแต่รุ่นจะออกสู่ตลาดในปีนี้เป็นต้นไป

เกี่ยวกับเรื่องนี้ไม่ใช่เป็นเรื่องใหม่นัก เนื่องจากเราสืบทราบว่าตั้งแต่เดือนมกราคมเป็นต้นมา Apple ได้มีการว่าจ้างวิศวกร 18 คนเพื่อเตรียมการเกี่ยวกับ USB แบบ C นี้ ผู้ใช้สามารถใช้การเชื่อมแบบไร้สายได้ ในการแลกเปลี่ยนข้อมูลแทนการใช้อุปกรณ์ USB หรือใช้ อุปกรณ์ แบบ USB เสียบเข้ากับแล็บท็อปโดยตรง ทั้งนี้ Apple กำลังวางจำหน่ายสายไฟที่แยกเสียบทั้งการชาร์ตไฟและการโอนถ่ายข้อมูล

7.ที่สุดของ Smartwatches หรูหราได้มาถึงอย่างเป็นทางการ

คงปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ราคาของรุ่น Apple Watch Edition นั้น เรียกได้ว่า ต้องใจปั๊ม ในการจ่ายเงินพอสมควร สำหรับซื้อสมาร์ทวอชท์ ที่มีอยู่ในท้องตลาดขณะนี้ แต่ตัวเรือนที่ทำจากทองคำ และวัสดุอุปกรณ์ นั้น คงทำให้เศรษฐีน้อยใหญ่อยากมีไว้ในคอลเลกชั่นแน่นอน และในรุ่นนี้ คงมีการจัดแสดงสินค้าไว้ในโซนพิเศษ เป็นสัดส่วนต่างหาก อย่างเห็นได้ชัดเมื่อวางจำหน่าย

via - THE VERGE

บทความที่เกี่ยวข้อง

Latest News