รวมสินค้าใหม่ที่ Apple ประกาศในงานเปิดตัว iPhone 14

ในช่วงเวลา 0:00 น.ของวันที่ 8 กันยายน ตามเวลาในประเทศไทย Apple ได้ประกาศเปิดตัวซีรีส์ iPhone 14 รวมถึง Apple Watch และ AirPods Pro ใหม่ และนี้คือไฮไลท์รวมภายในงานเปิดตัวครั้งนี้

iPhone 14

iPhone14

iPhone 14 / 14 Plus

เริ่มกันที่เรือธงอย่าง ซีรีส์ iPhone 14 ซึ่งในครั้งนี้ รุ่น mini ถูกยกเลิกไป และเพิ่มรุ่น Plus ใหม่ เข้ามาแทน มีให้เลือก 4 รุ่นประกอบไปด้วย iPhone 14 (6.1 นิ้ว) และ iPhone 14 Plus (6.7 นิ้ว) iPhone 14 Pro (6.1 นิ้ว) และ iPhone 14 Pro Max ( 6.7 นิ้ว)

โดย 2 รุ่นล่าง คือ iPhone 14 และ iPhone 14 Plus มาพร้อมกับชิพ A15 Bionic ตัวเดียวกับรุ่นปัจจุบัน แต่เพิ่ม ประสิทธิภาพของกล้องให้ดีขึ้น ในส่วนของกล้องไวด์ตัวหลัก มีเซนเซอร์ที่ใหญ่ขึ้น และค่ารูรับแสงเปลี่ยนจาก 1.6 เป็น 1.5 พร้อมอัพเกรดค่ารูรับแสงที่สว่างกว่า 2.2 ถึง 1.9 ที่กล้องหน้า ทำให้ทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง สามารถถ่ายภาพในที่ ที่มีแสงน้อยและที่มืด ได้อย่างละเอียดและความคมชัด มากยิ่งขึ้น

*ค่ารูรับแสงคือการแสดงตัวเลขของปริมาณแสงที่เข้าสู่กล้อง ยิ่งค่าน้อยยิ่งสว่าง

iPhone14 Pro

iPhone 14 Pro

ในส่วนของ iPhone 14 Pro และ iPhone 14 Pro Max 2 รุ่นท็อป มีการนำชิพ A16 Bionic ตัวใหม่มาใช้งาน การออกแบบและดีไซน์ภายนอก เกือบจะเหมือนกับรุ่นปัจจุบัน แต่คัตเอาท์ที่ด้านบนของหน้าจอ เปลี่ยนชื่อเป็น Dynamic Island เป็นรูปทรงแคปซูลใหม่ ความบางของกรอบยังช่วยให้ดูมีสไตล์อีกด้วย นอกจากนี้ยังรองรับการแสดงผลตลอดเวลา ดังนั้นคุณจึงเข้าถึงได้โดยไม่ต้องปลดล็อคหน้าจอ

ระบบกล้องยังคงเป็น 3 เลนส์ โดยกล้องไวด์มีการอัพเกรดเพิ่มขึ้นจากเดิม 12 ล้านพิกเซล เป็น 48 ล้านพิกเซล และขนาดเซ็นเซอร์ก็เพิ่มขึ้น 65% อีกทั้งยังมี ระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบออปติคัล ยิ่งเพิ่มความแข็งแกร่งในการถ่ายภาพในที่มืด ทำให้ได้ภาพถ่ายที่คมชัด เหนือระดับไปอีกขั้น

นอกจากนี้ ซีรีส์ iPhone 14 Series ยังรองรับการสื่อสารผ่านดาวเทียมอีกด้วย ตัวอย่างเช่น สามารถส่งและรายงานสถานการณ์ฉุกเฉินผ่านเครือข่ายดาวเทียมได้ แม้ในสถานที่ที่สัญญาณเครือข่ายเข้าไม่ถึง เช่น ในพื้นที่ภูเขาหรือในทะเล หรือในสถานการณ์ที่ไม่สามารถเชื่อมต่อการสื่อสารข้อมูลมือถือได้ เนื่องจากอุบัติเหตุหรือ ภัยพิบัติ (ในสหรัฐอเมริกาและแคนาดา กำหนดจะเริ่มในเดือนพฤศจิกายน)

ในส่วนของสีนั้น iPhone 14 และ 14 Plus มี 5 สี ( มิดไนท์, ม่วง, สตาร์ไลท์, (PRODUCT)RED, ฟ้า) สำหรับ 2 รุ่น Pro / Pro Max นั้น มี 4 สี (ดำสเปซแบล็ค, เงิน, ทอง, ม่วงเข้ม) โดย iPhone 14 ราคาเริ่มต้นที่ 32,900 บาท ( ซึ่งราคาดังกล่าวเป็นราคารวมภาษีแล้ว)

โดยจะมี iPhone 14 และ iPhone 14 Pro / 14 Pro Max จะวางจำหน่ายในวันที่ 16 กันยายน มีเพียงเฉพาะ iPhone 14 Plus เท่านั้นที่จะวางจำหน่ายในวันที่ 7 ตุลาคม เปิดรับ Pre-Order ตั้งแต่เวลา 19.00 น. วันที่ 9 กันยายน ตามเวลาในไทย โดยครั้งนี้ นับเป็นครั้งแรกที่ประเทศไทย เริ่มเปิดให้สั่งจองและวางจำหน่ายพร้อมกันกับในสหัฐอเมริกา

Apple Watch Ultra

Apple Watch Ultra

ลำดับถัดมาคือ Apple Watch Ultra ซึ่งเป็นรุ่นระดับไฮเอนด์ของ Apple Watch ได้รับการเปิดตัวเป็นครั้งแรก สร้างขึ้นสำหรับนักกีฬาและผู้ที่ชื่นชอบกิจกรรมกลางแจ้งในสภาพแวดล้อมที่สมบุกสมบัน ซีรีส์นี้มีตัวเรือนไทเทเนียมที่ทนทาน อายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่ยาวนาน (สูงสุด 36 ชั่วโมง) และ GPS ที่มีความแม่นยำสูง (ความถี่คู่) รวมฟังก์ชันและประสิทธิภาพที่จำเป็นสำหรับทุกแอ็คชั่น นอกจากจะทนทาน กันน้ำ และกันกระแทกแล้ว ยังมีข้อมูลจำเพาะมากมายพร้อมทัศนวิสัยที่ดีเยี่ยม และยังมีสายรัดพิเศษที่เหมาะสำหรับการ "ปีนเขา" "วิ่ง" และ "ดำน้ำ" ด้วย

ราคาเริ่มต้นที่ 31,900.00 บาท (รุ่น GPS + Cellular) คุณสามารถสั่งซื้อล่วงหน้าได้แล้ว แต่วันที่จำหน่ายอย่างเป็นทางการนั้น โปรดตรวจสอบอีกครั้ง (ยังไม่มีประกาศอย่างเป็นทางการจาก Apple สำหรับการจำหน่ายในประเทศไทย)

Apple Watch Series 8

Apple Watch Series 8

สำหรับ Apple Watch Series 8 ได้รับการพัฒนาให้ คุณสมบัติการตรวจวัดอุณหภูมิที่ให้ข้อมูลเชิงลึก ด้านสุขภาพของผู้หญิงที่ละเอียดยิ่งขึ้น เพื่อบันทึกรอบประจำเดือนและคาดการณ์วันที่ตกไข่ นอกจากนี้ ยังมีการเพิ่มฟังก์ชันเพื่อตรวจจับการชนของรถ รายงานอุบัติเหตุโดยอัตโนมัติ ส่งข้อมูลตำแหน่ง และแจ้งผู้ติดต่อกรณีฉุกเฉิน

นอกจากนี้ ในโหมดพลังงานต่ำ แบตเตอรี่สามารถใช้งานได้นานสูงสุดถึง 36 ชั่วโมง ซึ่งเหมาะอย่างยิ่งสำหรับเวลาที่คุณไม่ได้อยู่ใกล้ที่ชาร์จ เช่น บนเที่ยวบินยาวๆ ในแง่ของการสื่อสาร ในอนาคตจะรองรับการโรมมิ่งในต่างประเทศ คุณก็สามารถโทรออก ส่งข้อความ สตรีมเพลง และรับความช่วยเหลือในกรณีฉุกเฉินได้ในสถานที่ต่างๆ มากมายที่คุณเดินทางไป

โดยราคาเริ่มต้นที่ 15,900บาท สำหรับรุ่น GPS และ 19,900 บาท สำหรับรุ่น GPS + Cellular (คุณสามารถสั่งซื้อได้ในขณะนี้) ส่วนวันที่วางจำหน่ายอย่างเป็นทางการ กรุณาตรวจสอบอีกครั้ง

Apple Watch SE

Apple Watch SE

อีกหนึ่งรุ่นที่ได้รับการเปิดตัวคือ Apple Watch SE รุ่นที่2 ถือได้ว่าเป็นรุ่นที่มีราคาน่าคบหา มาพร้อมกับโปรเซสเซอร์ S8 SiP แบบ Dual-core ที่เร็วขึ้น แบบเดียวกับ Apple Watch Series 8 และ Apple Watch Ultra ซึ่งเร็วกว่ารุ่นก่อนหน้าถึง 20% รองรับการใช้งาน คุณสมบัติใหม่ การตรวจจับการชน และการสนับสนุนการโรมมิ่งระหว่างประเทศ จะเหมือนกับ Series 8 แม้จะไม่มีระบบวัดระดับออกซิเจนในเลือด แต่ก็ถือได้ว่าเป็นรุ่นที่คุ้มค่า

มีให้ตัวเรือนให้เลือก 3 สี คือ มิดไนท์,เงิน, สตาร์ไลท์ ราคาเริ่มต้นที่ 9,900 บาท สำหรับรุ่น GPS และ 11,900 บาท สำหรับรุ่น GPS + Cellular (คุณสามารถสั่งซื้อได้ในขณะนี้) ส่วนวันที่วางจำหน่ายอย่างเป็นทางการโปรดตรวจสอบอีกครั้ง

AirPods Pro(รุ่นที่ 2)

AirPods Pro(第2世代)

ในที่สุด AirPods Pro (รุ่นที่2) ก็มาถึง แม้ว่าจะดูเกือบจะเหมือนกับรุ่นแรก แต่เหนือชั้นกว่าด้วยชิป H2 ตัวใหม่ช่วยให้การประมวลผลเสียงขั้นสูงยิ่งขึ้น และสามารถลดเสียงรบกวนได้มากถึงสองเท่าของรุ่นก่อน มีตัวขยายสัญญาณช่วงไดนามิกสูงแบบเฉพาะ อีกทั้งฟังก์ชันการตัดเสียงรบกวนแบบแอ็คทีฟ และโหมดฟังเสียงภายนอกที่ปรับตามสภาวะ สามารถควบคุมการใช้งานผ่านตัวก้านแบบสัมผัส ให้คุณจัดการฟังก์ชั่น การเล่นเสียงจากก้านหูฟังได้ง่ายๆ เพียงเลื่อนขึ้นหรือลงเพื่อปรับระดับเสียง บีบเพื่อเล่นและหยุดเพลง หรือรับและวางสายโทรศัพท์ด้วยปลายนิ้ว

แบตเตอรี่ใช้งานได้นานกว่ารุ่นแรก 1.5 ชั่วโมง ใช้ในการฟังได้นานสูงสุด 6 ชั่วโมง และสนทนาต่อเนื่องได้นานถึง 4.5 ชั่วโมงต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง และสามารถใช้งานได้นานถึง 30 ชั่วโมงเมื่อเปิดใช้งานการตัดเสียงรบกวนแบบแอ็คทีฟร่วมกับเคส

เคสชาร์จ MagSafe ของ AirPods Pro (รุ่นที่2) มาพร้อมลำโพงในตัวและช่องคล้องสายนอก จากการชาร์จผ่านสาย Lightning แล้ว ยังสามารถใช้ที่ชาร์จมาตรฐาน Qi ที่ชาร์จ MagSafe และที่ชาร์จ Apple Watch ได้อีกด้วย

ราคาอยู่ที่ 8,990 บาท สำหรับ การสั่งซื้อในประเทศไทยนั้น ยังไม่มีประกาศอย่างเป็นทางการ โปรดตรวจสอบวันที่วางจำหน่ายอีกครั้ง

วันที่พร้อมใช้งาน iOS 16

iOS 16

มีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการไปแล้วในงานอีเวนท์ WWDC22 ในเดือนมิถุนายน ที่ผ่านมา สำหรับ iOS 16 โดยจะพร้อมอัพเดตและเริ่มใช้งาน สำหรับผู้ใช้ทั่วไปในวันที่ 13 กันยายน สำหรับการใช้งาน iPadOS และ macOS Ventura ที่พร้อมจะปล่อยให้ผู้ใช้ทั่วไปได้อัพเดตถูกกำหนดไว้เป็น เดือนตุลาคม

บทความที่เกี่ยวข้อง

Latest News